OUR ATHLETES
อาจไม่เคยมีใครรู้ว่าเบื้องหลังชีวิตของนักกีฬาทีมชาติไทยกว่า 95% คือการมุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก เพียงเพื่อชัยชนะใน 5% ของการแข่งขัน...ที่นำมาซึ่งความสุขของคนไทยทั้งประเทศ
นักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย นักสู้บนสังเวียนชีวิต
“ ถ้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้
เราก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ”
ชื่อ | : | วุฒิชัย มาสุข |
ชื่อเล่น | : | เอ็ม |
เกิด | : | 16 มีนาคม พ.ศ. 2533 จังหวัดบุรีรัมย์ |
ประเภทกีฬา | : | มวยสากลสมัครเล่น |
START HIS IMPOSSIBLE
เด็กยากจนจากจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เริ่มชกมวยเพราะอยากหารายได้มาจุนเจือครอบครัวโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทีมชาติคืออะไร มาถึงวันนี้เขาคือหนึ่งในกำลังหลัก ของทัพนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นของไทย
คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า เอ็ม-วุฒิชัย มาสุข เริ่มอาชีพนักมวยของตัวเองตั้งแต่ 7 ขวบ เพราะสำหรับเด็กคนอื่น การเริ่มต้นเล่นกีฬาตั้งแต่เด็กก็เพียงเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงหรือแค่เล่นสนุกแต่สำหรับเอ็ม เขาต้องเริ่มเล่นกีฬาเพื่อหารายได้ตั้งแต่ตอนนั้น แต่ด้วยความสามารถที่โดดเด่นบวกกับการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้เอ็มสามารถเข้ามาเป็นหนึ่งในนักกีฬาเยาวชนทีมชาติได้ตั้งแต่เรียนมัธยม 3
เอ็มไม่ปล่อยให้โอกาสที่ได้มาต้องสูญเปล่า เขาซ้อมอย่างหนัก และเคร่งครัดในวินัย เท่าที่นักมวยคนหนึ่งจะสามารถทำได้หลังจากเริ่มชกมวยสากล สมัครเล่นได้แค่ 1 ปี เอ็มก็สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันทั่วประเทศไปมากมาย จนสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยเห็นแววจึงดึงตัวเข้ามาร่วมกับนักมวยทีมชาติชุดใหญ่
นั่นยิ่งทำให้เขาต้องพยายาม และทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมมากขึ้นไปอีก ใน 1 ปี เอ็มทุ่มเวลาให้กับการซ้อมมากถึง 260 วัน ตั้งแต่เช้าถึงเย็นแทบไม่มีเวลาพัก เวลาของเขาเริ่มตั้งแต่เช้าด้วยการวิ่ง เตะกระสอบ ต่อยเป้าและเล่นเวท และยังต้องลงนวมเพื่อชกจริงทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ ทั้งหมดนี้เอ็มบอกว่าเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่มันคือสิ่งที่นักมวยที่ดีต้องยึดไว้เป็นวินัย หากอยากบรรลุเป้าหมาย
การซ้อมชกของเอ็ม จึงต้องทำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 10 ยก ถ้าเรานับรวมจำนวนยกของการซ้อมตลอด 22 ปีของเอ็ม เขาซ้อมชกไปแล้วมากกว่า 40,000 ยก ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อเป้าหมายสูงสุด คือการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ชกกันเพียง 3 ยกบนสังเวียน
เอ็มมีโอกาสคว้าเหรียญทองมาแล้วทั้งซีเกมส์และเอเชียนเกมส์ แต่ยังไม่มีโอกาสก้าวไปถึงเหรียญโอลิมปิกเกมส์ โอกาสครั้งแรกของเขาคือการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์เมื่อปี 2016 แต่น่าเสียดายที่เอ็มพ่ายให้กับคู่แข่งจนพลาดเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหมดหวัง เขาเคยบอกว่า “ถ้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เราก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม”จากปี 2016 เป้าหมายของเขายังคงแน่วแน่ ที่จะสร้างความเป็นไปได้ในการคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งในโอลิมปิกเกมส์ 2020 นี้ให้ได้ เขาจึงยิ่งทุ่มเท อดทนฝึกฝนอย่างหนัก นอกจากเพื่อทำฝันให้เป็นจริงแล้ว สิ่งนี้จะยังเป็นเครื่องพิสูจน์ด้วยว่า เมื่อมีความพยายาม ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ผลงาน